สวัสดีคะ ทางการบินไทยได้ให้ไปร่วมทริปพิเศษที่มีชื่อว่า
FAM Trip with TG A380-800 to Tokyo Fan Week, Japan (Bangkok – Narita – Bangkok)
ถึงทริปนี้ไปนั่งเลยฮ่องกงไปถึงญี่ปุ่น แต่ก็ใช้เครื่องบินเจ้าวาฬ Super Jumbo A380 เหมือนกัน เลยนำรีวิวมาให้เพื่อน ๆ ชาว HKFC ได้ชมกันด้วยแบบเจาะลึกทุกส่วนของเครื่องบินกันเลย ติดตามชมนะคะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook ได้ดังนี้
Hone Kong Fan Club : www.facebook.com/hongkongfanclub
Thai Airways : www.facebook.com/thaiairways
Tokyo Fan Club : www.facebook.com/tokyofanclub
ไฟล์ตที่ไปจะเป็นกรุงเทพ – นาริตะ ซึ่งกำหนดการเดินทางดังนี้
TG676 Bangkok – Narita 08:00 – 15:50
TG677 Narita – Bangkok 17:30 – 22:30
ถ้าเป็นเที่ยวบินไปฮ่องกง ไฟล์ตที่ A380 บินจะเป็นดังนี้
TG600 Bangkok – Hong Kong 08:00 – 11:45
TG601 Hong Kong – Bangkok 13:35 – 15:10
เที่ยวนี้มีโอกาสได้นั่ง Royal Silk Business Class เช็คอินกันที่ Row A ที่ Counter Check In จะมีที่นั่งให้ผู้โดยสารที่หน้า Counter ด้วยคะ
ไม่นานก็ได้ Boarding Pass พร้อมกับ Lounge Invitation ด้วย เดี๋ยวต้องไปลองใช้บริการกันซักหน่อย
Royal Silk Lounge จะอยู่ที่ชั้น 3 ไม่ไกลจากเกตที่จะขึ้นเครื่อง เลยได้ใช้เวลาใน Lounge เยอะหน่อย
เข้ามาถึงแล้วก็ต้องเดินสำรวจรอบ ๆ เป็นธรรมเนียมก่อนลงมือรับประทานอาหาร ^^
อาหารน่าทานทั้งนั้น จะเน้นเป็นอาหารทานง่าย ๆ แต่อิ่มเอาการอยู่เหมือนกัน เครื่องดื่มร้อน-เย็นอีกเพียบ
ภายในก็จะมีห้องน้ำพร้อมห้องอาบน้ำไว้ให้บริการ และ Free Wifi ด้วย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ได้เวลาขึ้นเครื่องซะแล้ว จาก Lounge เดินไปยัง Gate C3 ไม่ถึง 5 นาที
ถ่ายกับมุมบังคับซัก 1 ภาพ ^^
Let’s go to Tokyo
มาดูผังที่นั่งกันซักนิด A380 จะมีทั้งหมด 2 ชั้น ประมาณ 507 ที่นั่ง โดยเครื่องของการบินไทยชั้นล่าง (Main Deck) จะเป็น Economy Class ทั้งหมด ส่วนชั้นบน (Upper Deck) ด้านหน้าจะเป็น First Class ส่วนกลางจะเป็น Business Class และ Economy Class บางส่วนจะอยู่ด้านหลังคะ
ลำนี้ที่จะพาเราเดินทางไปคะ เป็น A380 ของ TG ลำที่ 1 (ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ลำ และกำลังเข้ามาเพิ่มอีกเร็ว ๆ นี้)
แสงตะวันยามเช้า เวลาประมาณ 07:30 น.
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ตื่นเต้น ๆ
ผู้โดยสารวันนี้ Business & Economy เต็มทุกที่นั่งคะ
เนื่องจากต้องการเก็บภาพโดยไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ๆ ก็เลยได้ขึ้นเครื่องก่อน Boarding ประมาณ 10 นาที หลังจากหาที่นั่งตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติภาระกิจเก็บรายละเอียดและถ่ายภาพกันอย่างไม่หยุดยั้ง
ตอนที่ 1 : เริ่มต้นกันที่ชั้นธุรกิจ Royal Silk (Business Class)
ถ้าดูจากผังที่นั่งด้านบนและภาพด้านล่างนี้ประกอบกัน Business Class จะเป็นการนั่งสลับฟันปลา เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่สำหรับใครที่มา 2 คน อยากได้ที่นั่งติดกันก็สามารถรีเควสได้นะคะ จะเป็นที่นั่งคู่ตรงกลาง (Honeymoon Seat) แต่ถ้าอยากนั่งริมหน้าต่างก็ต้องนั่งคนเดียวคะ
ที่นั่งริมหน้าต่างจะนั่งได้เพียงคนเดียว และจะสลับกันระหว่างที่นั่งริมหน้าต่าง และที่นั่งริมทางเดิน
อุปกรณ์รอบ ๆ ที่นั่ง ตั้งแต่ที่แขวนสูท โต๊ะทานอาหาร ที่ชาร์ตอุปกรณ์ต่าง ๆ
ส่วนด้านข้างก็จะเป็นกระเป๋าเก็บหนังสือและไฟส่องสว่างส่วนตัว
หูฟังพร้อมผ้าเปียกสำหรับไว้เช็ดทำความสะอาด และกระเป๋าอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว อาทิเช่นแปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก โลชั่น แปรงหวีผม ที่ปิดตา
ก่อนเครื่องออกก็แจกผ้าร้อน และเครื่องดื่ม (ชามะนาวอร่อยมาก) พร้อมกับเมนูอาหารไฟล์ตนี้
ได้เวลาออกเดินทางแล้ว เจ้า A380 นี่เวลาขึ้นเครื่องนิ่มมาก ๆ ถ้าไม่ได้มองกระจกออกไปด้านนอกจะไม่รู้เลยว่าเครื่องลอยขึ้นไปแล้ว
ถ้าอยากชมการเดินทางกันสด ๆ ชมได้ที่ช่องนี้เลยคะ (Information) จะเป็นกล้องติดอยู่ที่ด้านหลังเครื่อง จะเป็นเครื่องขึ้น – ลงเหมือนจริงทีเดียว
ระหว่างทาง update ว่าเราอยู่ตรงไหนแล้วก็สามาถติดตามได้ตลอดทริปด้วยจอ TV ส่วนตัว
เมื่อเครื่องบินขึ้นไปอยู่บนระดับที่ปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มให้บริการกันอีกครั้งด้วยผ้าเย็นและเครื่องดื่ม
จากนั้นก็ให้นั่งจิ้มโน่นนี่เล่นพักเล็ก ๆ
คราวนี้จัดมาชุดใหญ่เป็นเมนูอาหารเช้าที่เจ้าหน้าที่แจกเมนูให้เราเลือกก่อนเครื่องออกนั่นเอง
เริ่มต้นด้วยผลไม้เบา ๆ นา ๆ ชนิด
มีขนมปังเสริพร้อน ๆ เติมได้ไม่อั้น และต่อด้วยอาหารจานหลัก
ลุงเด้งเลือกเมนูปลากะพงทอด ซอสไชเท้าญี่ปุ่น ส่วนป้าไก่เลือกไข่ทอดกับครีมเห็ด เสิร์ฟมาในจานร้อน ๆ น่าทานมาก
นอกจากนั้นก็จะมีโยเกิร์ต พร้อมชา กาแฟครบเครื่อง
การจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ดูดีมาก แถมในถาดก็มีกล้วยไม้สดประดับอีก
จากนั้นก็แอบงีบเล็กน้อย จริง ๆ แล้วเบาะสามารถปรับได้เป็น Flat Bed 180 องศาเลยนะคะ แต่ว่าในภาพปรับขึ้นมานิดนึง เดี๋ยวจะถ่ายภาพแล้วไม่เห็นหน้านางแบบคะ ^^
ห้องน้ำก็สะอาดดีทีเดียว
เนื่องจากไฟล์ตไปโตเกียวค่อนข้างยาวกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนเครื่องลงชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ก็จะเสริฟอาหารให้อีก 1 รอบ เริ่มต้นด้วยผ้าร้อนและเครื่องดื่ม
มื้อนี้มีเมนูเดียวคือยากิโซบะทะเลคะ
นายแบบหนุ่มประจำทริป
ขอจบ ตอนที่ 1 กับTG A380 – Business Class ด้วยภาพประทับใจภาพนี้คะ
ตอนที่ 2 :
Fist Class สุดหรูพร้อมเจาะลึกห้องนักบินและห้องลับที่ไม่ค่อยได้เปิดเผย
FAM Trip with TG A380-800 to Tokyo Fan Week, Japan
ที่นั่งใหญ่มาก พร้อมความสะดวกสบายครบครัน ในเจ้า Jumbo A380 ของการบินไทยมีเพียง 12 ที่นั่งเท่านั้น
การปรับที่นั่งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ปรับนอนได้เหมือนเตียงเลย (Flat Bed) 180 องศา พร้อมระบบนวด
ถ้าต้องการนั่งริมหน้าต่างจะมีเพียง 1 ที่นั่ง ถ้าอยากนั่งเป็นคู่ 2 คนก็จะเป็นที่นั่งตรงกลาง หากมาคนเดียวแล้วได้ที่นั่งตรงกลางไม่อยากเห็นหน้าคนนั่งข้าง ๆ เราก็สามารถดึงฉากบังเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ถ้านั่งริมหน้าต่าง ข้าง ๆ หน้าต่างจะมีกล่องเก็บสัมภาระด้วย เพิ่มพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวเข้าไปอีก
จอระบบ Touch Screen และมีรีโมทควบคุมการทำงาน ส่วนโต๊ะทานข้าว สามารถเลื่อนเข้าออกได้เพื่อความสะดวกเอนกประสงค์เช่นทานอาหาร วางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หากไม่ต้องการใช้งานก็เลื่อนไปเก็บให้สุดหน้าทีวี
ไหน ๆ ได้มาทดลองนั่งแล้วขอรูปคู่ 1 รูป
ดูบรรยากาศรอบ ๆ กับอีกหน่อย
ในส่วนของ First Class จะมีโซนเล็ก ๆ อยู่ด้านหน้าเครื่อง ไว้สำหรับผู้โดยสารไว้ใช้เอนกประสงค์
ห้องน้ำก็กว้างขวาง ด้านในสุดเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
และก็มาในส่วนที่ตื่นเต้นที่สุดของทริป รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสห้องนักบินกันแบบสด ๆ ขณะเครื่องกำลังอยู่บนอากาศจริง ๆ ได้เห็นเมฆก้อนขาว ๆ วิ่งผ่านหน้าเครื่องบิน ซึ่งปกติผู้โดยสารจะเป็นจากหน้าต่างด้านข้าง ท้องฟ้าช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน ยิ่งดูยิ่งเพลินจำเริญหัวใจ ^^ (ความรู้สึกเหมือนในเพลงที่คาราบาวแต่งไว้มาก ๆ เลยคะ)
คุณพี่กัปตันท่านอัธยาศัยดีมาก ๆ คะ ให้ความเป็นกันเองและอธิบายการทำงานของเครื่องบินให้เราเป็นความรู้ด้วย
เนื่องจากด้านบนแสงแดดจ้ามาก เลยต้องมีแผ่นกรองแสงบังกระจกอยู่ เลยไม่สามารถถ่ายภาพมาให้เห็นความสวยงามของท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่ปรากฏอยู่หน้าเครื่องบิน
ฝั่งด้านข้างพี่ Co Pilot
อุปกรณ์มากมายจริง ๆ ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ
จากนั้นก็แว๊ปเข้าไปชมห้องพักนักบินซักหน่อย ซึ่งจะอยู่ก่อนถึงห้องนักบิน (ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องนอน)
ในห้องนอนจะเป็นห้องแคบ ๆ ไม่ใหญ่ พร้อมจอ TV เล็ก ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวก
คราวนี้เราจะไปสำรวจชั้นล่าง (Main Deck) กัน
ห้องใต้บันไดเล็ก ๆ ข้างในนี้จะเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานในส่วนของ Entertainment ภายในเครื่องบินทั้งหมด
จากนั้นก็ไปชมในส่วนของครัว ซึ่งครัวจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อรองรับและให้พอเพียงกับผู้โดยสารทั้งลำ
ฟังบรรยายการทำงานของทีมงานบนเครื่องบินแล้วรู้สึกได้เลยว่าเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย
ประตูทางออกต่าง ๆ ก็มีความปลอดภัยแบบสุด ๆ และถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากนั้นลงบันไดไปยังห้องลับ … คือห้องพักของเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินกัน
บรรยากาศภายในห้องพัก จะไม่ใหญ่นัก มีเตียงนอนเป็น 2 ชั้น นอนเต็มที่ได้ 8 คน
ด้านในสุดจะเป็นห้องแต่งตัวและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ถ่ายกันให้ดูใกล้ ๆ แต่ละเตียงจะมีม่านเพื่อความเป็นส่วนตัว
ห้องนี้ห้ามใช้ในระหว่างเครื่องขึ้น – ลง ในช่วงนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะต้องนั่งรัดเข็มขัดนิรภัยอยู่ในห้องผู้โดยสาร
ในกรณีฉุกเฉินจะมีทางออก Emergency Exit ซึ่งจะอยู่บนเพดานเตียงชั้น 2 เมื่อเปิดออกไปแล้วจะไปโผล่ที่ห้องผู้โดยสารเลขที่ 59D
(สามารถดูผังที่นั่งได้ที่รูปด้านบนของรีวิวนี้)
ตลอดทริปได้รับการบริการและได้ความประทับใจกับเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินการบินไทยของเราอย่างเต็มเปี่ยม
เมื่อเครื่องลงก็ขออนุญาติถ่ายภาพไว้ด้วยเป็นที่ระลึก
กัปตัน กันต์พิพัฒน์ เทพกาญจนา และ Co-pilot กฤษณ์ หนูสมแก้ว
และที่ต้องขอขอบพระคุณมาก ๆ อีกท่านนึงที่พาพวกเราทัวร์เครื่องบิน A380 ไฟล์ตนี้คือ
Air Purser : หัวหน้าพนักงานต้องรับบนเครื่องบิน
พี่ต้อม ปองพจน์ ชาญโลหะ
ถึงสนามบินนาริตะโดยสวัสดิภาพ ขอจบรีวิวตอนที่ 2 Fist Class สุดหรูพร้อมเจาะลึกห้องนักบินและห้องลับที่ไม่ค่อยได้เปิดเผย ไว้เพียงเท่านี้คะ
ตอนที่ 3 : ชั้นประหยัด (Economy Class)
ขากลับขอเริ่มต้นที่สถานี TOKYO STATION เพื่อขึ้นรถไฟ Narita Express ไปยังสนามบินนาริตะ
ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็มาถึงงสนามบินนาริตะ Check In Row B การบินไทยของเราคนก็ยังใช้บริการกันเต็มลำอีกเหมือนเดิม
เมื่อ Check In เสร็จแล้วก็เข้าไปในส่วนของตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสัมภาระ
การบินไทยจะอยู่ในเครือ Star Alliance เราเลยได้มาใช้บริการเล้าน์ของ ANA
เครื่องดื่มมากมาย รวมทั้งเบียร์ อาหารร้อน อาหารเย็น ถ้ามีเวลาอยู่ที่นี่นาน ๆ ทานกันให้อิ่มนั่งกันให้เพลินไปเลย
ลำนี้แหละที่จะพาเรากลับเมืองไทย จะเป็น A380 ของการบินไทยลำที่ 3 “CHAIYA”
เที่ยวบินของเราวันนี้เป็น Flight TG677 Narita – Bangkok ออกจากสนามบินนาริตะเวลา 17:30 ถึงกรุงเทพฯ 22:30 น.
แสงอาทิตย์ยามเย็นที่โตเกียว
เที่ยวขามาจากกรุงเทพฯ มัวแต่ไปสำรวจ First Class กับ Business Class เที่ยวขากลับนี้พอหาที่นั่งวางสัมภาระเสร็จแล้ว ก็ไม่รั้งรอที่จะไปสำรวจ Economy Class โดยเร็ว เนื่องจากมีเวลาไม่มากก่อนที่ผู้โดยสารท่านอื่น ๆ จะขึ้นมา จะได้ไม่รบกวนท่านอื่น ๆ
มาชม Economy แล้วก็ต้องร้องว๊าวเหมือนเดิม ทั้งความใหม่ ความสะอาด โทนสีของภายในห้องโดยสารบ่งบอกความเป็นการบินไทยได้อย่างดี
ในส่วนของ Economy จะมีทั้งหมดประมาณ 435 ที่นั่ง จะอยู่ในชั้น Main Deck นี้ทั้งหมดและบางส่วนของ Upper Deck
แต่ละที่นั่งจะมีหมอนและผ้าห่ม เข็มขัดนิรภัยจะเป็นแบบรัดเอว
มี TV ส่วนตัวทุกที่นั่ง
ที่นั่งตรงกลางจะมี 4 ที่นั่ง
ที่นั่งฝั่งริมหน้าต่างจะมี 3 ที่นั่ง
TV ส่วนตัวระบบ Touch Screen พร้อมรีโมทควบคุม และปลั๊ก USB
ผ้าบังศีรษะ และกระเป๋าหน้าที่นั่งพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ
ผู้โดยสารเริ่มทะยอยเข้ามา คงต้องกลับขึ้นไปนั่งที่เดิมแล้ว
เริ่มออกเดินทางกันแล้ว … BYE BYE JAPAN
ก่อนเครื่องขึ้นก็มีการเสริฟผ้าร้อนและเครื่องดื่ม เมื่อเครื่องขึ้นได้ระดับซักพักก็เริ่มเสริฟผ้าร้อนและเครื่องดื่มกันอีกรอบ
เที่ยวนี้นอกจากเครื่องดื่มเย็น ๆ แล้ว ยังมีไก่ยากิโทริให้ทานเล่น ๆ คนละ 2 ไม้
ระหว่างรอเมนูหลัก จิ้มดูโน่นดูนี่ไปพลาง ๆ ก่อน
ต่อด้วยอาหารจานแรก ตับเป็ดบด และสลัดผักสด น้ำสลัดเธ้าซันไอส์แลนด์
ตามมาด้วยอาหารจานหลัก วันนี้มีให้เลือก 4 อย่าง
สตูเนื้อ มันฝรั่งบด / ปลาทะเลนึ่ง ซอสหัวไชเท้าบดทานกับข้าวญี่ปุ่น / แกงเผ็ดหมูทานกับข้าวหอมมะลิ / ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ
ต่อด้วยขนมปังและเนยนานาชนิด
ต่อด้วยมูสเค๊ก พร้อมชา – กาแฟเสริมกันตลอด
อาหารขากลับนี้เรียกได้ว่าอิ่มมาก จากนั้นก็ยังพอมีเวลาพักผ่อนอีกประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเครื่องลง
ก่อนนำเครื่องลงแจกผ้าร้อนและปิดท้ายด้วยไอศครีม
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิกันโดยสวัสดิภาพ ทริปนี้สนุกมากมาย
ต้องขอขอบพระคุณการบินไทย การท่องเที่ยวโตเกียว (Tokyo Convention Visitors Bureau, TCVB) กับทริปดี ๆ
FAM Trip with TG A380-800 to Tokyo Fan Week, Japan
และเพื่อน ๆ รวมทริป คุณหนึ่ง, คุณเตย (ทีมงานจากการบินไทย), Travel Blogger คุณเต้ (Travelmania), Beauty Blogger น้องมด (Cinnamongal) และ Beauty Blogger น้องเอิ๊ก (erkerk)